รายงานการจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี ปีการศึกษา 2556

วันที่โพสต์: 18 ก.พ. 2014, 2:51:08

รายงานผลการดำเนินงาน

กิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี

โรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) ปีการศึกษา 2556

*************************

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม : นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 โรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) ร่วมกับโรงเรียนในศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานครกาหลง 3 ตำบลบ้านโสก อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 จำนวน 30 คน ประกอบด้วย

1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 คน

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 11 คน

3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 11 คน

4. ผู้บริหาร ครูและบุคลากรโรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) จำนวน 7 คน

ที่มาและความสำคัญ

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) พุทธศักราช 2553 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 3 กิจกรรม คือ ได้แก่ 1) กิจกรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนักเรียน 3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี (รวมถึงกิจกรรมยุวกาชาด) เป็นกิจกรรมหนึ่งในกลุ่มกิจกรรมนักเรียน (กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมชุมนุม) ที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม 40 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา (ระดับประถมศึกษา) และ 40 ชั่วโมงต่อภาคเรียน (ระดับมัธยมศึกษา) โดยสำหรับการจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี มีแนวทางการจัดจิกกรรมตามวิธีการลูกเสือ (Scout Method ) ซึ่งมีองค์ประกอบ 7 ประการ คือ

1. คำปฏิญาณและกฎ ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ กฎของลูกเสือมีไว้ให้ลูกเสือเป็นหลักในการปฏิบัติ ไม่ได้ ห้าม “ทำ” หรือบังคับให้ “ทำ” แต่ถ้า “ทำ” ก็จะทำให้เกิดผลดีแก่ตัวเอง เป็นคนดี เช่น ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีเกียรติเชื่อถือได้ ฯลฯ

2. เรียนรู้จากการกระทำ เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานอยู่ที่การกระทำของตนเอง ทำให้มีความรู้ที่ชัดเจนและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวเองและท้าทายความสามารถของตนเอง

3. ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือและเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นการเรียนรู้การใช้ประชาธิปไตยเบื้องต้น

4. การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือเนตรนารีด้วยการใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ได้แก่ เครื่องแบบ เครื่องหมาย การทำความเคารพ รหัส คำปฏิญาณ กฎ คติพจน์ คำขวัญ ธง เป็นต้น วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือแห่งโลก ซึ่งมีสมาชิกทั่วโลก และเป็นองค์กรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในโลก

5. การศึกษาธรรมชาติ เป็นสิ่งสำคัญอันดับ 1 ในกิจกรรมของลูกเสือ ธรรมชาติอันโปร่งใสตามชนบทป่าเขา ป่าละเมาะ และพุ่มไม้ เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งมีการในการไปทำกิจกรรมกับธรรมชาติ การปืนเขา ตั้งค่ายพักแรกในสุดสัปดาห์ หรือ ตามวาระของการอยู่ค่ายพักแรม ตามกฎระเบียบเป็นที่เสน่หาแก่เด็กทุกคน ถ้าขาดการศึกษาธรรมชาติก็ไม่ถือว่าใช้ชีวิตแบบลูกเสือ

6. ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้เด็กทำ ต้องให้มีความก้าวหน้าและดึงดูดใจ สร้างให้เกิดความกระตือรือร้น อยากที่จะทำ และวัตถุประสงค์ในการจัดแต่ละอย่างให้สัมพันธ์กับความหลากหลายในการพัฒนาตนเอง เกมการเล่นที่สนุกสนาน การแข่งขันกันก็เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นการจูงใจที่ดี

7. การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็กเพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไปทั้งคู่มีความต้องการการซึ่งกันและกัน เด็กก็ต้องการให้ผู้ใหญ่เองก็ต้องการนำพาให้ไปสู่หนทางที่ดี ให้ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและดีที่สุด จึงเป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย

วัตถุประสงค์ของโครงการ :

กิจกรรมเข้าค่ายพักแรมและเดินทางไกลของลูกเสือ-เนตรนารี ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมภาคบังคับหนึ่งที่สำคัญ ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และทุกโรงเรียนจะต้องจัดให้กับผู้เรียน โดยจะจัดในช่วงภาคเรียนที่ 2 ทั้งนี้ ตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ พ.ศ. 2509 ได้เขียนไว้ ใน ข้อ 273 ว่า การเดินทางไกลและแรมคืน ให้ผู้กำกับกลุ่มหรือผู้กำกับลูกเสือ นำลูกเสือไปฝึกเดินทางไกลและแรมคืนในปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง ครั้งหนึ่งให้พักแรมอย่างน้อยหนึ่งคืน การเดินทางไกลและแรมคืน มีวัตถุประสงค์ดังนี้

1. เพื่อให้ลูกเสือ-เนตรนารีได้ฝึกความอดทน ความมีระเบียบวินัย รู้จักช่วยตัวเอง รู้จักอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น

2. เพื่อให้ลูกเสือ-เนตรนารีเป็นพลเมืองดี รู้จักช่วยเหลือสังคมด้วยความเต็มใจ

3. เพื่อให้ลูกเสือเนตรนารีได้พัฒนาตนเองเต็มศักยภาพจากประสบการณ์ตรงและเรียนรู้เพิ่มเติม

แนวทางการดำเนินการ :

1. คณะกรรมการบริหารศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานครกาหลง 3 ประชุมตกลงจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมร่วมกันทุกโรงเรียนในสังกัด มีการประชุมวางแผนและแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน และคณะวิทยากรจัดกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี ตามคำสั่งศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานครกาหลง 3 ที่ 2/2557 สั่ง ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

2. คณะกรรมการดำเนินงานประชุมหารือและวางแผนการดำเนินงาน ดังนี้

2.1

2.2

2.3

สรรหางบประมาณ โดยระดมทุนจากคณะผู้บริหารและครูทุกคน

กำหนดวัน เวลาและสถานที่จัดกิจกรรม

จัดเตรียมสถานที่ กิจกรรม สื่อ นวัตกรรม อาหาร เครื่องดื่ม ฐานการเรียนเรียนรู้ และอุปกรณ์ที่จำเป็น

3. นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ลงทะเบียนเข้าค่ายพักแรม ณ ค่ายลูกเสือชั่วคราวโรงเรียนบ้านโนนสะอาด(ศิริคุณราษฎร์วิทยา) กำหนดเวลารวม 2 วัน พักแรม 1 คืน

4. เครื่องมือที่ใช้ในการจัดอบรมพัฒนา

งบประมาณ : ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากการระดมทุนของศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา

นครกาหลง 3 จำนวน 20,000 บาท

ระยะเวลาดำเนินการ : วันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผลการดำเนินงาน :

คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานครกาหลง 3 ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรม ให้กับลูกเสือ-เนตรนารีซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 182 คน ซึ่งมาจากโรงเรียนต่าง ๆ 12 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านโนนแต้(คุรุราษฎร์วิทยา) โรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) โรงเรียนบ้านโปร่งโก โ รงเรียนดอนหันราษฎร์อุปถัมภ์ โรงเรียนบ้านโปร่งคลอง(ประชาวิทยาคาร) โรงเรียนบ้านโนนพันชาติกุดโดน โรงเรียนหนองขาม(ทองงามวิทยา) โรงเรียนหนองตาไก้วิทยากร โรงเรียนบ้านฝาย โรงเรียนดอนหันวิทยา โรงเรียนบ้านลำชี และโรงเรียนบ้านโนนสะอาด(ศิริคุณราษฎร์วิทยา) ในระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ค่ายลูกเสือชั่วคราว โรงเรียนบ้านโนนสะอาด(ศิริคุณราษฎร์วิทยา) ตำบลโนนสะอาด อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ สรุปผลการดำเนินงาน ดังนี้

1. โรงเรียนในศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานครกาหลง 3 ตำบลบ้านโสกนำลูกเสือ-เนตรนารีที่เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 12 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 70.59

2. ลูกเสือ-เนตรนารีที่เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 จากโรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 100

3. ลูกเสือ-เนตรนารีได้ฝึกความอดทน ความมีระเบียบวินัย รู้จักช่วยตัวเอง รู้จักอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น

4. ลูกเสือ-เนตรนารีเป็นพลเมืองดี รู้จักช่วยเหลือสังคมด้วยความเต็มใจ

5. ลูกเสือเนตรนารีได้พัฒนาตนเองเต็มศักยภาพจากประสบการณ์ตรงและเรียนรู้เพิ่มเติม

6. ลูกเสือ-เนตรนารีที่เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 จากโรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) ผ่านการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คิดเป็นร้อยละ 100

7. ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการกิจกรรมของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อการจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี ประจำปีการศึกษา 2556 ได้ผลดังตาราง 1

ตาราง 1 ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของนักเรียน และครูโรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) ที่มีต่อ

การจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี ศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐาน

การศึกษานครกาหลง 3 ประจำปีการศึกษา 2556 (n = 34)

ตางราง 1 (ต่อ)

จากตาราง 1 พบว่านักเรียนและครูโรงเรียนบ้านหนองบัวเพวัง(คุรุราษฎร์รังสรรค์) มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี ศูนย์พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษานครกาหลง 3 ประจำปีการศึกษา 2556 ระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2557 อยู่ในระดับ 4.53 หมายถึง พึงพอใจมากที่สุด

ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ

ปัญหา/อุปสรรค

ไม่มี

ข้อเสนอแนะ

1. นักเรียนได้เสนอแนะให้ปรับปรุงความสะอาดของน้ำสำหรับใช้อาบและห้องน้ำ

2. ควรจัดกิจกรรมเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมร่วมกันอีกในปีการศึกษาต่อไป และขอให้เชิญคณะวิทยากรภายนอกสำหรับกิจกรรมรอบกองไฟ

3. ควรเพิ่มเวลาในการแสดงรอบกองไฟของลูกเสือ-เนตรนารีให้มากขึ้น

**********************************